สวัดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน....นานทีเดียวที่ฉันไม่ได้เขียนบทความ เป็นยังไงบ้างค่ะ บทความต่าง ๆ เกี่ยวกับพลังจิตที่ฉันได้นำมาเผยแพร่ให้อ่านกัน....ท่านทดลองฝึกกันบ้างหรือยังคะ ถ้าท่านติดตามและทดลองฝึกอยู่บ่อย ๆ วันละเล็กละน้อยค่อย ๆ สะสมไปเรื่อย ๆ จนเป็นนิสัย......สักวันหนึ่งท่านก็จะมีพลังจิตอย่างอัศจรรย์อย่างไม่น่าเชื่อ ฉันก็ฝึกเองจ๊ะ ไม่ได้ไปเรียนจากสำนักไหน เพราะอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ไม่มีแหล่งเรียนเหมือนที่เมืองไทย
วันนี้ฉันจะขอแนะนำเกี่ยวกับการฝึก "พลังจักระ" เริ่มแรกทีเดียวฉันไม่ทราบหรอกนะ ว่าพลังจักระก็มีด้วย
เมื่อสิบปีมาแล้ว....ฉันได้นิมนต์หลวงพ่อสิงห์ทน นราสโภ ในนามของสมาคมไทย-กวนอิม, สวิตเซอร์แลนด์ ให้มาโปรดสมาชิกของสมาคม ในโอกาสนั้นท่านได้มอบหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ "พลังรังษีธรรม" ไว้ให้ฉันได้ศึกษา ฉันก็อ่านแล้วก็ลองฝึกดู พอเป็นพื้นฐาน ก็ลองทำไปเรื่อย ๆ โดยไม่หวังผลอะไรหรอก เพราะว่ายากแม้แต่อ่านก็ยังไม่เข้าใจเลย
จนกระทั่งคืนวันหนึ่งได้มีเทวดาท่านหนึ่ง มาแนะนำวิธีฝึก "พลังจักระ" วิธีง่าย ๆ ให้ แล้วท่านก็เป็นครูฝึกให้ด้วย เทวดาท่านคงจะสงสารมั้ง เพราะเห็นฝึกมานานแล้วยังไม่ได้เรื่องเลย......ฉันและทุกคนในครอบครัวตกลงเป็นลูกศิษย์เทวดากันหมด........พอถึงเวลา ๓ ทุ่มเราก็จะมานั่งรออาจารย์เทวดาทุกวัน ฉันจะไม่ขอเอ่ยชื่อท่าน เพราะท่านบอกว่าชื่อนั้นไม่สำคัญ.....ก่อนที่จะเรียน เราก็จะสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและครูบาอาจารย์พร้อมกัน......จากนั้นอาจารย์เทวดาท่านก็จะอธิบายวิธีฝึกให้เข้าใจก่อน แล้วจึงสาธิตให้ดู......พวกเราตั้งใจเรียนด้วยความสนใจมาก โดยเฉพาะลูกสาวลูกชาย ตอนนั้นคนเล็กยังเรียนอยู่ชั้นประถมปลายและคนโตเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น เขาชอบเรียนกับเทวดามากเลย เพราะเทวดามีเรื่องอะไรแปลก ๆ มาสอนมาเล่าให้ฟัง ได้หัวเราะกันสนุกทุกค่ำ และได้ความรู้ใหม่ ๆ ด้วย ส่วนสามีฉันเขาก็ชอบเข้าร่วมกิจกรรมด้วย แต่ไม่ค่อยมีความอดทนที่จะนั่งขัดสมาธินาน ๆ
ฉันก็เกริ่นซะเพลินไปหน่อยนะ....มาเริ่มเรื่อง "พลังจักระ" กันดีกว่า.....ก่อนอื่นควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำว่า "จักระ" (Chakra)....หมายถึง วงล้อที่หมุนจนทำให้เกิดพลังงาน.....จักระเป็นศูนย์รวมพลังงานในแต่ละแห่งในร่างกาย มีทั้งหมด ๗ แห่งหรือฐาน.....จักระในแต่ละฐานนี้สามารถรับพลังจากธรรมชาติ (พลังจัรกรวาล) ได้....เป็นศูนย์พลังที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวกับต่อมและอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายด้วย.....พลังจักระนี้ ทุกคนมีอยู่ในร่างกายตั้งแต่เกิดแล้ว แต่ว่ายังไม่มีพลังมากพอที่จะนำมาใช้พัฒนาชีวิตได้.....ยกเว้นบางคนมีพลังจักระมากโดยธรรมชาติ เพราะเป็นผู้ที่ชอบออกกำลังกายกลางแจ้งสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนเพียงพอ เป็นผู้ที่รักตนเองและรักผู้อื่นเสมอเหมือนรักตน มีเมตตาโดยไม่หวังผลตอบแทน.....จึงทำให้เป็นผู้มีร่างกายและจิตใจที่เข้มแข็งมีพลังมากได้.....สำหรับผู้ที่ไม่มีพลังจักระมากพอก็เสริมพลังได้ ด้วยการฝึกฝนอย่างถูกวิธีจะช่วยได้
จุดประสงค์ของการฝึกพลังจักระ
การฝึกพลังจักระก็เพื่อพัฒนาร่างกายและจิตใจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อนำมาใช้ชีวิตประจำวัน การฝึกจักระเป็นการปรับความสมดุลย์ของพลังในแต่ะละฐาน เมื่อแต่ละฐานหรือศูนย์พลังมีพลังสมดุลย์กัน อวัยวะและต่อมต่าง ๆ ในร่างกายก็จะสามารถทำงานดีขึ้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีภูมิต้านทานโรคดีขึ้นด้วย
ติดตามตอนต่อไป