Tuesday, January 29, 2013

แนวทางเจริญสติปัฏฐาน (ตอนที่ ๕)


ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน

สภาพธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นแล้วไม่ดับไม่มี  ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา  คำว่า อนัตตาไม่ได้หมายความว่า ไม่มี  มี  แต่ว่าสภาพธรรมทั้งหลายไม่อยู่ภายใต้อำนาจบังคับบัญชาของใคร  เช่น  จิตเห็น  จิตได้ยิน  จิตรู้กลิ่น จิตลิ้มรส  จิตรู้กระทบสัมผัสทางกาย  เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหว  จิตคิดนึก  จิตเหล่านี้เป็นวิบากจิตหรือเป็นผลของกรรมที่ได้กระทำแล้ว  เมื่อมีเหตุปัจจัยพร้อมแล้วที่จะส่งผล  ย่อมทำให้เห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา  ได้ยินเสียงที่ปรากฏทางหู  ได้กลิ่นสิ่งที่ปรากฏทางจมูก  ได้ลิ้มรสสิ่งที่ปรากฏทางลิ้น ได้กระทบสัมผัสสิ่งที่ปรากฏทางกาย

จิตเกิดดับสืบต่ออย่างรวดเร็วมาก  ไม่สามารถรู้ได้ด้วยตาเนื้อ  ต้องรู้ได้ด้วยปัญญา เพราะเหตุว่าจิตเป็นนามธรรม  เป็นธาตุรู้  สิ่งที่เกิดขึ้นทางตา  ทำให้ดูเหมือนว่ามีผู้คนอยู่ร่วมกันในโลกนี้มากมาย  แต่ถ้าปัญญาประจักษ์ชัดในลักษณะของธาตุรู้  ซึ่งเป็นสภาพรู้   เช่น  เห็นเกิดขึ้นทำกิจเห็นสิ่งที่ปรากฏในขณะนั้น  จะรู้ได้ว่า ชั่วขณะนั้นเป็นเพียงการเห็นเท่านั้น  เป็นเฉพาะโลกของการเห็น  ซึ่งไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่วัตถุสิ่งต่าง ๆ  เพราะขณะนั้นเพียงเห็น  ยังไม่ได้นึกถึงรูปร่างสัณฐานและเรื่องราวใด ๆ ของสิ่งที่เห็น

เพราะฉะนั้น การที่จะเห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริงได้  ก็ด้วยปัญญาเท่านั้น  ปัญญาคือความเข้าใจถูกต้องว่า  ขณะที่คิดว่าเป็นโลก เป็นสัตว์  เป็นคน เป็นสิ่งของต่าง ๆ นั้น เป็นชั่วขณะที่จิตคิดนึกเรื่องสิ่งที่ปรากฏให้เห็น  แต่ขณะที่กำลังเห็นเป็นอีกขณะหนึ่ง  ไม่ใช่ขณะที่กำลังคิดนึกเรื่องสิ่งที่ปรากฏ

แต่ที่จะเข้าใจโลกได้จริง ๆ นั้น ต้องรู้ว่าสภาพธรรมปรากฏเพียงแต่ละขณะจิตเท่านั้น  แต่เพราะการเกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็วมาก  จึงทำให้ปรากฏเป็นโลกที่เสมือนไม่แตกสลาย  เป็นโลกซึ่งปรากฏเสมือนยั่งยืน มีสัตว์ บุคคล วัตถุสิ่งของมากมาย  แต่ตามตวามเป็นจริงแล้ว โลกขณะหนึ่ง ๆ ก็คือ  การเกิดขึ้นของจิตที่เกิดขึ้นรู้อารมณ์ เพียงชั่วขณะเดียว แล้วก็ดับไป

นามธรรมและรูปธรรมเกิดขึ้นและดับไปเพราะเหตุปัจจัย  ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร  เพราะเหตุว่านามธรรมและรูปธรรมไม่เที่ยง  เกิดดับสืบต่อทุกขณะ  จึงเป็นปัจจัยให้เกิดทุกข์  แม้ความทุกข์ก็ไม่เที่ยง  ไม่อยู่ภายใต้อำนาจบังคับบัญชาของใคร  แต่ละขณะถ้ารู้ในความเป็นไปของสภาพธรรม  ว่าไม่ใช่เรา  ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล  ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด  เราก็จะมีความมั่นคงในความเป็นอนัตตา  มีความมั่นคงในความเป็นธรรมะ  มีความเข้าใจถูกว่า สภาพธรรมทั้งหมดในขณะนี้ไม่ใช่เรา  แต่เป็นเพียงสิ่งที่มีจริง ๆ  ซึ่งมีปัจจัยเกิดขึ้น


                                 ขออนุโมทนาในกุศลจิตและขออุทิศส่วนกุศลให้แก่สรรพสัตว์

                                                       ...................................................