สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน ท่านสนใจอยากทราบเกี่ยวกับพลังจิตมั้ยคะ ฉันมีเรื่องจะเล่าสู้ฟังเกี่ยวกับประสบการณ์ฝึกจิตให้มีพลัง หรือที่เรียกกันว่า "พลังจิต"
พุทธพจน์ "มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฎฐา มโนมยา" ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่เป็นประธาน ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ คำว่า "จิต" หรือ "ใจ" นั้นทำหน้าที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์ จิตเป็นนามธรรมซึ่งเกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็วตามเหตุปัจจัย จิตไม่เคยอยู่นิ่งๆ ชอบไหลไปตามอารมณ์ภายนอกที่มากระทบทางตา หู จมูก ลิ้น การสัมผัสทางกายและทางใจ ถ้าจิตได้เสวยอารมณ์ที่ดีก็จะเกิดความยินดีพอใจ(โลภะ) ถ้าได้เสวยอารมณ์ที่ไม่เป็นที่ปรารถนาก็จะเกิดความขัดเคืองใจ (โทสะ) จะเห็นว่าวันหนึ่ง ๆ ตั้งแต่เช้าตื่นนอนจนถึงเข้านอนจิตจะสะสมแต่กิเลส"หรือ "อกุศล" เป็นส่วนใหญ่ เมื่อเป็นเช่นนี้จิตจิตก็จะมีแต่พลังลบมากกว่าพลังบวก เมื่อจิตมีพลังลบมากกว่าพลังบวก ก็จะเป็นเหตุทำให้กายอ่อนแอเจ็บป่วยได้ เพราะว่าจิตกับกายนั้นเกี่ยวเนื่องกันอยู่ จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว ถ้านายแย่บ่าวก็พลอยแย่ไปด้วย การที่เราปล่อยจิตให้จมอยู่ในกองกิเลสไปวันๆ สนใจแต่กายจนลืมใจ สักวันจะรู้สึกตัวว่าตนยังไม่ได้เริ่มต้นทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับ
ชีวิตเลย
วันนี้ก็คิดว่าจะเล่าเรื่องประสบการณ์เกี่ยวกับการฝึกจิตให้มีพลังซึ่งเป็นพลังบวก ทุกคนมีพลังจิตด้วยกัน
ทั้งน้านจ้ะ แต่ท่านไม่รู้จักวิธีที่จะนำมันอกมาใช้ โดยเฉพาะพลังบวกเป็นพลังที่นำมาใช้ประโยชน์ให้กับตน
เองและผู้อื่นได้ด้วย ท่านอยากทราบวิธีใช้พลังจิตมั้ยคะ ถ้าอยากทราบก็โปรดอดทนอ่านต่อนะคะ
ตามปกติแล้วคนเราก็มีพลังจิตซึ่งใช้ทำกิจอยู่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว เมื่อใช้ไปเรื่อย ๆ มันก็จะอ่อนแรงไปเรื่อย ๆ เช่นกัน ลองดูก็ได้นะ อย่างเช่นถ้าเราคิดกังวนอยู่เรื่องอะไรสักอย่างคิดซ้ำซากจนนอนไม่กินไม่ได้
นอนไม่หลับหรือที่เรียกว่าเป็นโรคเครียด เป็นไงล่ะ....จิตใจผ่องใสมั้ย ตรงข้ามเลยนะ จิตใจมัวหมองไม่ผ่องใสแถมกายก็อ่อนแรง นั่นแหละเป็นอาหารของจิตมีพลังลบล่ะ ต้องรีบจัดการบำบัดอย่างรวดเร็วเชียว
ทำไงดี ไม่มีใครช่วยท่านได้หรอกคะ นอกจาก.....ตัวท่านเองเท่านั้น
ฉันก็เคยเจออาการโรคเครียดหนัก ๆ มาแล้วแทบเอากายไม่รอดก็เพราะจิตมันโง่เข้าไปยึดโน่นยึดนี่