สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน
เป็นยังไงบ้างค่ะ ท่านได้อ่านบทความของฉันแล้ว ได้ลองฝึกทำลมปราณบ้างหรือยัง ถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่ต้องไปบังคับจิตนะคะ ก็อ่านสะสมความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ไปก่อน เป็นการป้อนอาหารจิตให้เขาชิมลิ้มรสจนกว่าเขาพร้อมที่จะลงมือพิสูจน์ เมือจิตมีความพร้อม คือ มีความศรัทธา วิริยะ และสติ ทั้งสามคุณธรรมนี้
จะเป็นเหตุปัจจัยทำให้จิตสามารถพัฒนาให้มีพลังแรงกล้าได้อย่างน่าอัศจรรย์
การฝึกลมปราณมีประโยชน์ต่อสุขภาพกายอย่างมากทีเดียว เพราะการที่เราสูดเอาลมหายใจช้า ๆ เอาออกซิเจนเข้าไปฟอกเลือด ทำให้เลือดของเรามีกำลังขึ้นกว่าเดิม และการหายใจออกช้า ๆ ก็จะเป็นการขับเอาคาร์บอนไดออกไซด์ออก เป็นการขับเอาสารพิษออกจากร่างกายด้วย ร่างกายจะมีภูมิต้านทานดีขึ้น ถ้าเราฝึกหายใจยาว ๆ อยู่เป็นประจำ สุขภาพจิตก็จะดีขึ้นด้วยเช่นกัน ลองสังเกตตนเองดูก็ได้ เวลาเรามีอารมณ์ขัดเคืองใจ ลมหายใจจะสั้น เวลาตกใจหรือตื่นเต้นลมหายใจจะสั้น ฉะนั้นพลังลมปราณจึงเปรียบเสมือนเป็นยาครอบจักรวาลได้เช่นกัน ใช้แก้โรคขี้โกรธ โรคขี้กลัว โรคขี้ประหม่า โรคเครียด โรคฟุ้งซ่านและยังคลายความเจ็บปวดก็ได้ เรียกว่า "สารพัดประโยชน์" แถมยังมีประโยชน์ยิ่งกว่าที่กล่าวมานี้ก็คือ เป็นบาทฐานของการเจริญวิปัสสนาได้ด้วย เป็นไงล่ะ...น่าสนมั๊ยคะ "ลมปราณสมาธิ"
การสวดมนต์เสริมพลังจิต
การสวดมนต์บทยาว ๆ ออกเสียงอักขระให้ถูกต้องและออกเสียงดัง ๆ ทำให้เกิดพลังจิตได้เหมือนกัน
ฉันทดลองมาแล้วด้วยตนเอง ชอบสวดมนต์เช้า สวดมนต์เย็นเป็นเวลานานเป็นชั่วโมง บางวันแถมรอบบ่ายด้วยอีกครึ่งชั่วโมง การสวดมนต์เป็นเวลานาน จิตสามารถเป็นสมาธิได้อย่างรวดเร็ว แต่ต้องมีสติอยูที่บทสวดมนต์อย่างแน่วแน่ เพราะว่าสติเป็นปัจจัยให้เกิดสมาธิ ขณะสวดมนต์ถ้าส่งจิตออกนอกบทสวดบ่อย ๆ ซัดส่ายไปทางขวาทีซ้ายที ออกไปไกลบ้างใกล้บ้าง ฟุ้งบ้าง รับรองว่าไม่มีวันพบ "สมาธิ" หรอกนะเพราะ "สมาธิ" ไม่ใช่จะเกิดได้ง่าย ๆ ถ้าขาดสติและความเพียร เรื่องปัญญาก็ไม่ต้องพูดถึงเลย การสร้างพลังจิตแบบง่าย ๆ ฉันก็ใช้วิธีสวดมนต์นี่แหละ แล้วจึงฝึกทำลมปราณ เรื่องศีลห้าก็สำคัญสำหรับการ
เจริญสมาธิ เพราะว่าขณะที่เราสวดมนต์มีสติอยู่ที่บทสวด จิตก็ไม่มีโอกาสที่จะคิดอกุศลได้เลย ดังนั้นศีล
ในขณะนั้นก็ย่อมสมบูรณ์ไม่มีด่างพร้อย เมื่อจิตมีศีลสะอาด จิตก็จะมีความสงบเป็นจิตที่ควรแก่การงานและยังเป็นปัจจัยให้สุขภาพกายแข็งแรงด้วย
บทสวดมนต์ที่ฉันชอบสวดก็มีในหนังสือสวดมนต์ทั่ว ๆ ไปนั่นแหละ พระคาถาต่าง ๆ ก็ชอบสวดโดยเฉพาะพระคาถาชินบัญช รและพระคาถามหากรุณาธารณีสูตรของพระโพธิสัตว์กวนอิม ฉันเป็นคนชอบ
พิสูจน์ชอบทดลองไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ว่าพระคาถานี้ พระคาถานั้นเก่งอย่างโน้นอย่างนี้ ฉันก็นึกอยากลอง ฉันลองทำน้ำมนต์จากการสวดพระคาถาชินบัญชร และพระคาถามหากรุณาธารณีสูตรมาแล้ว
เวลาไม่สบายปวดศีรษะ ปวดท้อง ปวดฟัน ดื่มน้ำมนต์ทำเอง แก้ปวดได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องมีข้อแม้ว่า ต้องทำด้วยความศรัทธาจึงจะได้ผลดี.....สำหรับวันนี้ก็จะขอยุติไว้เพียงแค่นี้ก่อน แล้วพบกันอีกจ๊ะ
เป็นยังไงบ้างค่ะ ท่านได้อ่านบทความของฉันแล้ว ได้ลองฝึกทำลมปราณบ้างหรือยัง ถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่ต้องไปบังคับจิตนะคะ ก็อ่านสะสมความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ไปก่อน เป็นการป้อนอาหารจิตให้เขาชิมลิ้มรสจนกว่าเขาพร้อมที่จะลงมือพิสูจน์ เมือจิตมีความพร้อม คือ มีความศรัทธา วิริยะ และสติ ทั้งสามคุณธรรมนี้
จะเป็นเหตุปัจจัยทำให้จิตสามารถพัฒนาให้มีพลังแรงกล้าได้อย่างน่าอัศจรรย์
การฝึกลมปราณมีประโยชน์ต่อสุขภาพกายอย่างมากทีเดียว เพราะการที่เราสูดเอาลมหายใจช้า ๆ เอาออกซิเจนเข้าไปฟอกเลือด ทำให้เลือดของเรามีกำลังขึ้นกว่าเดิม และการหายใจออกช้า ๆ ก็จะเป็นการขับเอาคาร์บอนไดออกไซด์ออก เป็นการขับเอาสารพิษออกจากร่างกายด้วย ร่างกายจะมีภูมิต้านทานดีขึ้น ถ้าเราฝึกหายใจยาว ๆ อยู่เป็นประจำ สุขภาพจิตก็จะดีขึ้นด้วยเช่นกัน ลองสังเกตตนเองดูก็ได้ เวลาเรามีอารมณ์ขัดเคืองใจ ลมหายใจจะสั้น เวลาตกใจหรือตื่นเต้นลมหายใจจะสั้น ฉะนั้นพลังลมปราณจึงเปรียบเสมือนเป็นยาครอบจักรวาลได้เช่นกัน ใช้แก้โรคขี้โกรธ โรคขี้กลัว โรคขี้ประหม่า โรคเครียด โรคฟุ้งซ่านและยังคลายความเจ็บปวดก็ได้ เรียกว่า "สารพัดประโยชน์" แถมยังมีประโยชน์ยิ่งกว่าที่กล่าวมานี้ก็คือ เป็นบาทฐานของการเจริญวิปัสสนาได้ด้วย เป็นไงล่ะ...น่าสนมั๊ยคะ "ลมปราณสมาธิ"
การสวดมนต์เสริมพลังจิต
การสวดมนต์บทยาว ๆ ออกเสียงอักขระให้ถูกต้องและออกเสียงดัง ๆ ทำให้เกิดพลังจิตได้เหมือนกัน
ฉันทดลองมาแล้วด้วยตนเอง ชอบสวดมนต์เช้า สวดมนต์เย็นเป็นเวลานานเป็นชั่วโมง บางวันแถมรอบบ่ายด้วยอีกครึ่งชั่วโมง การสวดมนต์เป็นเวลานาน จิตสามารถเป็นสมาธิได้อย่างรวดเร็ว แต่ต้องมีสติอยูที่บทสวดมนต์อย่างแน่วแน่ เพราะว่าสติเป็นปัจจัยให้เกิดสมาธิ ขณะสวดมนต์ถ้าส่งจิตออกนอกบทสวดบ่อย ๆ ซัดส่ายไปทางขวาทีซ้ายที ออกไปไกลบ้างใกล้บ้าง ฟุ้งบ้าง รับรองว่าไม่มีวันพบ "สมาธิ" หรอกนะเพราะ "สมาธิ" ไม่ใช่จะเกิดได้ง่าย ๆ ถ้าขาดสติและความเพียร เรื่องปัญญาก็ไม่ต้องพูดถึงเลย การสร้างพลังจิตแบบง่าย ๆ ฉันก็ใช้วิธีสวดมนต์นี่แหละ แล้วจึงฝึกทำลมปราณ เรื่องศีลห้าก็สำคัญสำหรับการ
เจริญสมาธิ เพราะว่าขณะที่เราสวดมนต์มีสติอยู่ที่บทสวด จิตก็ไม่มีโอกาสที่จะคิดอกุศลได้เลย ดังนั้นศีล
ในขณะนั้นก็ย่อมสมบูรณ์ไม่มีด่างพร้อย เมื่อจิตมีศีลสะอาด จิตก็จะมีความสงบเป็นจิตที่ควรแก่การงานและยังเป็นปัจจัยให้สุขภาพกายแข็งแรงด้วย
บทสวดมนต์ที่ฉันชอบสวดก็มีในหนังสือสวดมนต์ทั่ว ๆ ไปนั่นแหละ พระคาถาต่าง ๆ ก็ชอบสวดโดยเฉพาะพระคาถาชินบัญช รและพระคาถามหากรุณาธารณีสูตรของพระโพธิสัตว์กวนอิม ฉันเป็นคนชอบ
พิสูจน์ชอบทดลองไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ว่าพระคาถานี้ พระคาถานั้นเก่งอย่างโน้นอย่างนี้ ฉันก็นึกอยากลอง ฉันลองทำน้ำมนต์จากการสวดพระคาถาชินบัญชร และพระคาถามหากรุณาธารณีสูตรมาแล้ว
เวลาไม่สบายปวดศีรษะ ปวดท้อง ปวดฟัน ดื่มน้ำมนต์ทำเอง แก้ปวดได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องมีข้อแม้ว่า ต้องทำด้วยความศรัทธาจึงจะได้ผลดี.....สำหรับวันนี้ก็จะขอยุติไว้เพียงแค่นี้ก่อน แล้วพบกันอีกจ๊ะ