รูปทั้งหมดมี ๒๘ รูป เป็นมหาภูตรูป ๔ เป็นอุปาทายรูป ๒๔ เมื่อมหาภูตรูป ๔ ไม่เกิด อุปาทายรูป ๒๔ ก็มีไม่ได้เลย
กลุ่มของรูปแต่ละกลุ่มหรือแต่ละกลาปนั้น เมื่อเกิดขึ้นแล้วยังไม่ดับไปทันที เรียกว่า สภาวรูป คือรูปที่มีลักษณะเฉพาะของตน จะมีอาายุเท่ากับจิตเกิดดับ ๑๗ ขณะ
ลักขณรูป ๔ มีดังนี้
เมื่อรูปเกิดขึ้นขณะแรกเป็น อุปจยรูป ๑
ขณะที่รูปเจริญขึ้นเป็น สันตติรูป ๑
ขณะที่รูปเสื่อมลงเป็น ชรตารูป ๑
ขณะที่รูปดับเป็น อนิจจตารูป ๑
ลักขณะรูป ๔ เป็น อสภาวรูป คือ เป็นรูปที่ไม่มีสภาวะต่างหากเฉพาะของตน แต่สภาวรูปทุกรูปนั้นย่อมมีลักษณะต่างกัน ๔ ลักษณะ คือ ขณะที่รูปเกิดขึ้นไม่ใช่ขณะที่รูปเจริญขึ้น และขณะที่รูปเสื่อมก็ไม่ใช่ขณะที่รูปดับ กล่าวได้ว่า อุปจยรูปและสันตติรูป คือ ขณะที่เกิดแล้วยังไม่ดับ ส่วนชรตารูปและอนิจจตตารูปนั้น คือ ขณะที่ใกล้จะดับและขณะดับ
รวมอวินิพโภครูป ๘ + ลักขณรูป ๔ เป็น ๑๒ รูป นอกจากนั้นยังมีรูปอื่นอีก เช่น
ปริจเฉทรูป คือ อากาสรูป ซึ่งคั่นอยู่ระหว่างกลาปทุก ๆ กลาป ทำให้รูปแต่ละกลาปไม่ติดกัน ไม่ว่ารูปจะปรากฏเล็กใหญ่ขนาดใดก็ตาม จะมีอากาสรูปคั่นอยู่ระหว่างทุก ๆ กลาปอย่างละเอียดที่สุด ทำให้รุปแต่ละกลาปแยกออกจากกันได้ ถ้าไม่มีปริจเฉทรูปคั่นแต่ละกลาป รูปทั้งหลายก็จะติดกันหมด แตกแยกกระจัดกระจายออกไม่ได้เลย แต่รูปที่ปรากฏว่าใหญ่โตก็สามารถแตกย่อยออกได้อย่างละเอียดที่สุดนั้น ก็เพราะมีอากาศธาตุ คือ ปริจเฉทรูปคั่นอยู่ทุก ๆ กลาปนั่นเอง
ฉะนั้น ปริจเฉทรูปจึงเป็นอสภาวรูปอีกรูปหนึ่ง ซึ่งไม่มีลักษณะเฉพาะของตนที่เกิดขึ้นต่างหาก แต่เกิดคั่นอยู่ระหว่างกลาปต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นพร้อม ๆ กันนั่นเอง
รวมอวินิพโภครูป ๘ + ลักขณรูป ๔ + ปริจเฉทรูป ๑ เป็น ๑๓
ไม่ว่ารูปจะเกิดที่ใด ภพภูมิใดก็ตาม จะเป็นรูปที่มีใจครอง (อุปาทินนกรูป) หรือรูปไม่มีใจครอง (อนุปาทินนกรูป) ก็ตามจะปราศจากรูป ๑๓ รูปไม่ได้เลย
ส่วนรูปที่มีใจครอง ซึ่งเป็นรูปของสัตว์ บุคคลต่าง ๆ ในภพภูมิที่มีขันธ์ ๕ นั้น มีปสาทรูปซึ่งเกิดจากกรรมเป็นสมุฏฐาน (ปัจจัย) ดังนี้ คือ
จักขุปสาทรูป เป็นรูปที่กระทบกับสิ่งที่ปรากฏทาางตาได้ ๑ รูป
โสตปสาทรูป เป็นรูปที่กระทบกับเสียงได้ ๑ รูป
ฆานปสาทรูป เป็นรูปที่กระทบกับกลิ่นได้ ๑ รูป
ชิวหาปสาทรูป เป็นรูปที่กระทบกับรสได้ ๑ รูป
กายปสาทรูปเป็นรูปที่กระทบกับเย็น ร้อน (ธาตุไฟ) ๑, อ่อน แข็ง (ธาตุดิน) ๑, ตึง ไหว (ธาตุลม) ๑
รวมอวินิพโภรูป ๘ + ลักขณรูป ๔ + ปริจเฉทรูป ๑ + ปสาทรูป ๕ เป็น ๑๘ รูป
...................
หนังสืออ้างอิง
ปรมัตถธรรมสังเขป จิตตสังเขปและภาคผนวก
โดย สุจินต์ บริหารวนเขตต์